26 ธันวาคม 2551

1. การสร้างสื่อด้วยโปรแกรม Camtasia Studio 5

โปรแกรมที่ใช้ในการบันทึกการทำงาน ระหว่างที่เราใช้งานอ ยู่ หรือบันทึกแนวทางการสอน การใช้งานโปรแกรม โดยจะมีการเก็บบันทึกการทำงานตั้งแต่การเลื่อนเมา ส์ ไปคลิกที่เม นู หรือคำสั่งต่างๆ ยังหน้าจอ คอมพิวเตอร์ โปรแกรมจะทำการบันทึกให้ทั้งหมด พร้อมทั้งในรายละเอียดย่อย แล้วยังสามารถที่จะบันทึก คำพูด หรือคำอธิบาย ผ่านทาง ไมโครโฟน ในขณะที่กำลังแนะนำการใช้งานโปรแกรมไปพร้อมๆ กัน เพื่อช่วย ในการสร้างงานแนะนำการใช้งานโปรแกรมหรือผลิตสื่อการสอน ในลักษณะของไฟล์วีดิโอ

สามารถสร้างงานด้านการอบรม การนำเสนอ โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการสร้างงานมัลติมีเดียมาก่อน โปรแกรม Camtasia Studio ช่วยให้คุณนำเสนองานในรูปแบบวีดิโอ เพื่อสร้างงาน สำหรับการผลิตสื่อ Online ผ่านโลก Internet หรือในรูปแบบงาน CD ได้โดยง่าย สามารถสร้างงาน มาตรฐานได้หลายรูปแบบ เช่น AVI ,SWF, FLV, WMV, MOV, RM, EXE, หรือ Animation GIF

นอกเหนือจากการบันทึกข้อมูลการทำงาน เพื่อให้ได้เป็นงานไฟล์วีดิโอมาแล้วนั้น ผู้ใช้ยังสามารถ ที่จะกำหนด ให้ไปแสดงผลบนเว็บเพจได้ด้วยเช่นกัน ด้วยคำสั่งที่จะแปลงไฟล์จากวีดิโอ ที่ทำการบันทึก ไว้แล้วนั้นให้ไปเป็นไฟล์ของ Shockwave Flash (*.swf) คุณสามารถนำงานที่สร้างด้วย Camtasia ไปใช้กับ งานMultimedia Application อื่นๆ เช่น Macromedia Authorware, Macromedia Director MX, Flash MX , Adobe Premiere, Final CutPro และอื่นๆ 

 

คุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งเพื่อสร้างงานได้

Microsoft Windows 2000, Window XP, or Windows Vista or later

Microsoft DirectX 9 or later version

GHz processor (2.5 GHz recommended*)

หน่วยความจำ (RAM) 500 MB (1 GB or more recommended*)

Windows ต้อง มี sound card และ มี ไมโครโฟนเพื่อการบันทึกเสียง

จำเป็นต้องมีพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ว่างอย่างน้อย 60 MB สำหรับการลงโปรแกรม

Camtasia Studio Add-in for PowerPoint requires PowerPoint 2000, 2002, 2003, or 2007

Production to the Apple iPod format requires Apple Quick-Time 7.1 or later version

* Strongly recommended for PowerPoint and camera recordings 

 

คุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ดูงาน

Microsoft Windows 2000, Window XP, or Windows Vista or later

CPU ความเร็วไม่ต่ำกว่า 300 MHz

หน่วยความจำ (RAM) 64 MB 

เตรียมสความพร้อมของเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนการบันทึกเสียง

ก่อนการบันทึกเสียง เมื่อเสียบไมค์ไว้ ที่ ช่องเสียบของ sound card (สีชมพู) ต้องตั้งค่า ที่ Volume

1. โดยดับเบิ้ลคลิก      ที่ ตรง status bar แล้วคลิกที่ปุ่ม Options > Properties



2. เช็ค ตรง Recording



3. ต้องไม่ปิดเสียงไมค์ โดยตรงระดับไมค์ ลากประมาณปานกลาง

 ขั้นตอนการเข้าสู่โปรแกรม

 

1. start> Programs > Camtasia Studio5 > Camtasia Studio 



2. การเข้าสู่โปรแกรมโดยการดับเบิ้ลคลิก icon  ที่ Desktop

 

Welcome - Camtasia Studio




1. New Screen Recording -  เปิดงานใหม่พร้อมจับภาพน้าจอแล้วบันทึกเป็นไฟล์วีดีโอ

2. New Voice Recording -  เปิดงานใหม่พร้อมบันทึกเสียง ลงใน Timeline

3. New PowerPoint Recording -  เปิดไฟล์ Presentation พร้อมจับภาพหน้าจอแล้วบันทึกเป็นไฟล์วีดีโอ

4. Import Media -  การ Import ไฟล์ที่มีอ  ยู่ เพื่อนำเข้ามาทำงาน


ส่วนประกอบของโปรแกรม

1. Menu Bar , Toolbar  ของโปรแกรม Camtasia Studio 

2. Task List เป็นเมนูที่ใช้จัดการการทำงานกับไฟล์ในโปรแกรม  ได้แก่

• Make a recording เพื่อการจับภาพหน้าจอแล้วบันทึกเป็นไฟล์วีดีโอ

       • Record PowerPoint เพื่อเปิดไฟ ล์ Presentation พร้อมจับภาพหน้าจอแล้วบันทึกเป็นไฟล์วีดีโอ


• Add การนำไฟล์ต่างๆ เข้ามาทำงานในโปรแกรม

- Import media เป็นการนำไฟล์ต่างๆเข้ามาทำงานในโปรแกรม ได้แก่

- image นำเข้าไฟล์รูปภาพ ซึ่งต้องมีรูปแบบเป็น bmp, gif, jpg, png

- audio นำเข้าไฟล์เสียง ซึ่งต้องมีรูปแบบเป็น wav, mp3, wma

- video นำเข้าไฟล์วีดิโอ ซึ่งต้องมีรูปแบบเป็น avi, mpg, mpeg, wmv

- Title Clips การสร้าง Title ประกอบวีดีโอ

- Voice Narration บันทึกเสียงลง Timeline ใน Camtasia Studio

- Record camera บันทึกภาพจาก Webcam 

• Edit การแก้ไขไฟล์งาน ในด้านต่างๆได้แก่

- Audio enhancements การปรับแต่ง แก้ไข คุณภาพของเสียง

- Zoom-n-Pan การย่อ-ขยาย พื้นที่ที่ต้องการเน้นในการนำเสนอ

- Callouts การใส่คำอธิบายเพิ่มลงไปในวีดีโอ

- Transitions การใ ส่ Effect ระหว่างไฟล์มีเดีย

- Captions การใส่ข้อความ

- Flash Quiz and Survey การสร้างคำถาม และแบบสำรวจ

- Picture-in-Picture (PIP) การบันทึกภาพจาก Webcam เพื่อนำไปซ้อนในวิดีโอ



• Produce เป็นรูปแบบการจัดเก็บไฟล์งานและการนำเสนองาน

- Produce video as การเลือกเก็บไฟล์งานเป็น Format ต่างๆ

- Create CD menu การสร้างเมนูเป็นไฟ ล์ .exe หรือเขียนใน CD-ROM

- Create web menu การสร้างรายการเมนู  แสดงผลงานผ่านเว็บ

- Batch production การแปลงไฟล์วีดิโอหลายๆ ไฟล์พร้อมกัน 

 

3. Clip Bin ส่วนที่ใช้แสดงไฟล์งานที่ถูกนำเข้ามาใช้งาน เช่น ไฟล์วีดีโอ  รูปภาพ  เสียง

4. Timeline และ Story Board พื้นที่สำหรับจัดการกับไฟล์งานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์วีดิโอไฟล์เสียง และไฟล์รูปภาพ โดยสามารถทำงานสลับไปมาได้ระหว่าง Timeline และ Story Board

5. Monitor พื้นที่แสดงตัวอย่างวีดีโอหรือภาพ

 

โปรแกรมอื่นๆ ภายในชุด Camtasia Studio

โปรแกรม Camtasia Studio  มีโปรแกรมร่วมอื่นๆ ให้เลือกใช้งาน  ซึ่งแต่ละโปรแกรมจะมีหน้า ที่ ในการทำงานต่างกัน ดังนี้


 

·       Camtasia Audio Editor สำหรับอัดเสียง และปรับแต่งเสียงประกอบในวีดีโอ

·       Camtasia MenuMaker สำหรับสร้างเมนูของแผ่น CD เพื่อเรียกเปิดไฟล์วีดีโอ

·       Camtasia Player สำหรับเปิดเล่นไฟล์วีดีโอ

·       Camtasia Recorder สำหรับจับภาพในหน้าจอและบันทึกเป็นไฟล์วีดีโอ

Camtasia Theater สำหรับสร้าง Web Menu เพื่อนำวีดีโอไปใช้บนเว็บไซต์

 

 Camtasia Audio Editor


Camtasia MenuMaker



  

Camtasia Player    

Camtasia Recorder

 


Camtasia Theater

2. ขั้นตอนการใช้งานเมื่อเริ่มต้นการเรียนการสอน

3. ขั้นตอนการใช้งานเมื่อเริ่มต้นการเรียนการสอน (ต่อ) 

4. การใส่ลูกเล่นต่างๆ ระหว่างบันทึก ของ Camtasia Recorder 

06 พฤศจิกายน 2551

การศึกษากับสื่อมัลติมีเดีย

มัลติมีเดีย และเทคโนโลยีมัลติมีเดีย มีความสำคัญกับการเรียนการสอนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเรียนในระบบออนไล์ หรือเรียนผ่านระบบเครือข่าย (e-Learning) เพราะการนำเทคโนโลยีทางด้านนี้มาใช้ เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างมาก ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับระบบได้ และระบบสามารถเก็บข้อมูลสถิติการเรียน การทดสอบ และพัฒนาการของผู้เรียนไว้เป็นข้อมูลได้เช่นกัน นอกจากการเรียนดังกล่าว เทคโนโลยีมัลติมีเดียยังมีความสำคัญกับการให้บริการสารสนเทศในองค์กรต่าง ๆ ซึ่งเกิดผลดีต่อผู้ใช้ และเป็นการสร้างคุณค่าให้กับสารสนเทศนั้น ๆ ให้มีความสำคัญต่อผู้ใช้ เนื่องด้วยการเข้าถึงสารสนเทศนั้น ๆ ทั้งนี้นอกจากประโยชย์ต่าง ๆ ดังกล่าวแล้วมัลติมีเดียยังมีข้อดีอีกมากมายดังนี้

1.เทคโนโลยีด้านสื่อมัลติมีเดียช่วยให้การออกแบบบทเรียน ตอบสนองต่อแนวคิด และทฤษฎีการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งผลโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวิจัยที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสื่อมัลติมีเดียว่า สามารถช่วยเสริมการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นได้

2.สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบของซีดีรอม ใช้ง่าย เก็บรักษาง่าย พกพาได้สะดวก และสามารถทำสำเนาได้ง่าย

3.สื่อมัลติมีเดียเป็นสื่อการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองตามศักยภาพ ความต้องการ และความสะดวกของตนเองสามารถสร้างสถานการณ์จำลอง จำลองประสบการณ์ ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วย ตนเอง

4.ในปัจจุบันมีโปรแกรมช่วยสร้างบทเรียน (Authoring Tools) ที่ง่ายต่อการใช้งานทำให้บุคคลที่สนใจทั่วไปสามารถสร้างบทเรียนสื่อมัลติมีเดียใช้เองได้

5. ผู้สอนสามารถใช้สื่อมัลติมีเดียเพื่อสอนเนื้อหาใหม่ เพื่อการฝึกฝน เพื่อเสนอสถานการณ์จำลอง และเพื่อสอนการคิดแก้ปัญหา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้เป็นประการสำคัญ รูปแบบต่างๆ ดังกล่าวนี้จะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้ และรูปแบบการคิดหาคำตอบ

6. สื่อมัลติมีเดียช่วยสนับสนุนให้มีสถานที่เรียนไม่จำกัดอยู่เพียงห้องเรียน เท่านั้น ผู้เรียนอาจเรียนรู้ที่บ้าน ที่ห้องสมุด หรือภายใต้สภาพแวดล้อมอื่นๆ ตามเวลาที่ ตนเองต้องการ

7. เทคโนโลยีสื่อมัลติมีเดีย สนับสนุนให้เราสามารถใช้สื่อมัลติมีเดียกับผู้เรียนได้ ทุกระดับอายุ และความรู้ หลักสำคัญอยู่ที่การออกแบบ ให้เหมาะสมกับผู้เรียนเท่านั้น

8. สื่อมัลติมีเดียที่มีคุณภาพ นอกจากจะช่วยให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนของโรงเรียน หรือหน่วยงานแล้ว ความก้าวหน้าของระบบครือข่าย ยังช่วยส่งเสริมให้การใช้สื่อมัลติมีเดียเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาอื่นๆ อีกด้วย
.